กลยุทธ์และระบบบริหารจัดการการจัดซื้อ

ในปี 2565 พีทีจีได้กำหนดกลยุทธ์การบริหารห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน โดยมุ่งในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุม ตั้งแต่การคัดเลือกคู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม พร้อมปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อความยั่งยืนภายใต้แผนบริหารจัดการความเสี่ยง ตลอดจนพัฒนาคู่ค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเติบโตร่วมกันในระยะยาวโดยกำหนดให้มีการดำเนินตามกลยุทธ์ 5 ประการดังต่อไปนี้ั 

ดาวน์โหลดจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับบริษัทคู่ค้า

ดาวน์โหลดนโยบายในการจัดหาและคัดเลือกคู่ค้า

การกำหนดกลุ่มและวิเคราะห์คู่ค้าสำคัญ (Critical Tier 1 Suppliers)

พีทีจี ได้พัฒนากระบวนการบริหารความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทาน ครอบคลุมคู่ค้ากลุ่มธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ Non-oil โดยมีการดำเนินการจำแนกกลุ่มคู่ค้าออกเป็นคู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Tier 1 Suppliers) คู่ค้าสำคัญของบริษัทโดยตรง (Critical Tier 1 Suppliers) และคู่ค้าสำคัญที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับบริษัทโดยตรง (Critical Non-oil 1 Suppliers) โดยเกณฑ์ในการวิเคราะห์กำหนดไว้ดังนี้

1. ปริมาณยอดการสั่งซื้อ
2. ความสำคัญของสินค้า/บริการต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
3. ระดับของการพึ่งพาคู่ค้า หรือการทดแทนกันของสินค้า

การประเมินความเสี่ยงด้าน ESG และการตรวจประเมินคู่ค้า

พีทีจี มีการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้าที่ดำเนินธุรกิจกับบริษัท ซึ่งครอบคลุมคู่ค้ากลุ่มธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจ Non-oil ตามเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนทั้งในมิติโอกาสเกิดและผลกระทบจากความเสี่ยงด้าน ESG ครอบคลุมประเด็นด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของคู่ค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงจากสถานที่ปฏิบัติงานหรือโรงงานสร้างผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ความเสี่ยงจากการส่งมอบสินค้า/บริการไม่ทันตามกำหนด เป็นต้น เมื่อได้กลุ่มคู่ค้าที่มีระดับความเสี่ยงสูงและสูงมาก บริษัทจะดำเนินการเข้าตรวจประเมินคู่ค้าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG Audit) เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าความเสี่ยงที่พบได้รับการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม


คำจำกัดความของคู่ค้าที่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืนในระดับสูง

ผลการกำหนดกลุ่มและวิเคราะห์คู่ค้าสำคัญ ปี 2565

ผลการตรวจประเมินคู่ค้าด้าน ESG


นโยบายและระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า

บริษัทมีนโยบายการบริหารสินเชื่อ ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการให้สินเชื่อของแต่ละหน่วยงานธุรกิจที่สามารถแข่งขันและเทียบเคียงคู่แข่งได้ โดยพิจารณาให้ระยะเวลารับเงินและจ่ายเงินในภาพรวมมีความสอดคล้องกัน และไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน โดยบริษัทได้คำนึงถึงต้นทุนและความเสี่ยงทางการเงินอันอาจเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตอีกด้วย

อัตราส่วนทางการเงิน (วัน) 2565 2564 2563 2562 เฉลี่ย 3 ปี
การเก็บหนี้เฉลี่ย 1.07 1.08 1.06 0.89 1.01
การชำระหนี้เฉลี่ย 11.12 11.45 14.89 16.62 14.32

บริษัทกำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้ให้แก่คู่ค้าภายใน 30 วัน โดยในปี 2565 บริษัทมีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย 1.07 วันและมีระยะเวลาชำระหนี้เฉลี่ย 11.12 วัน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่นโยบายกำหนด

10076

10074

Loading...