การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
PTG ได้ดำเนินการระบุประเด็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญและแนวทางป้องกันการละเมิดที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 บริษัทได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนครอบคลุมร้อยละ 100 ของกิจกรรมทางธุรกิจ ทั้งกลุ่มธุรกิจ Oil และ Non-Oil ภายใต้หลักการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านความยั่งยืนขององค์กร
โดยบริษัทได้ดำเนินการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการระบุและวางแนวทางป้องกัน ผ่านการประชาพิจารณ์กับชุมชน การสำรวจความคิดเห็นจากพนักงาน การประเมินความพึงพอใจของลูกค้า การรับข้อร้องเรียนผ่าน whistle blowing และการบริการด้าน call center รวมถึงการตรวจประเมินคู่ค้า ข้อมูลที่ได้รับถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงมาตรการด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล บริษัทได้เปรียบเทียบเกณฑ์โอกาสเกิด (likelihood) กับหลักเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงองค์กร และระดับผลกระทบ (Impact) กับหลักสากลของสหประชาชาติ (United Nation Guiding Principle on Business and Human Rights) และพิจารณาประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน รวมถึงบุคคลที่อาจได้รับผลกระทบ ครอบคลุม พนักงาน ชุมชนและสิ่งแวดล้อม คู่ค้าและผู้รับเหมา และลูกค้า ซึ่งประเด็นที่มีการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน ได้แก่

กระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
ระดับความเสี่ยง | โอกาสเกิด (ความถี่) | ผลกระทบ | ||
---|---|---|---|---|
ระดับผลกระทบ | จำนวนผู้ได้รับผลกระทบ | ความสามารถในการเยียวยา | ||
5 (สูงมาก) |
เกิดขึ้นมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือน | ผู้มีส่วนได้เสียเสียชีวิต | มีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง หรือเกินขอบเขตของพื้นที่ปฏิบัติการ | ไม่สามารถควบคุมหรือบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ให้กลับสู่สภาวะปกติ และ/หรือใช้ระยะเวลาในการเยียวยามากกว่า 5 ปี |
4 (สูง) |
เกิดขึ้น 1 ครั้งต่อเดือน | ผู้มีส่วนได้เสียทุพพลภาพ | มีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1 กลุ่มขึ้นไป(เช่น กระทบทั้ง ลูกค้าและพนักงาน เป็นต้น) | ควบคุมหรือบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในระยะเวลา 3-5 ปี |
3 (ปานกลาง) |
เกิดขึ้น 4-6 ครั้งต่อปี | ผู้มีส่วนได้เสียได้รับบาดเจ็บสาหัสและ หยุดงานเกินกว่า 3 วัน | มีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียส่วนใหญ่ เพียง 1 กลุ่ม (เช่น ลูกค้า หรือคู่ค้า หรือชุมชน หรือ พนักงาน หลายราย) | สามารถควบคุมหรือบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในระยะเวลา 1-3 ปี |
2 (ต่ำ) |
เกิดขึ้น 2-3 ครั้งต่อปี | ผู้มีส่วนได้เสียได้รับบาดเจ็บและต้องพบแพทย์ | มีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียบางส่วน เพียง 1 กลุ่ม (เช่น กระทบแค่ ลูกค้า หรือคู่ค้า หรือชุมชน หรือพนักงาน บางส่วนเท่านั้น) | สามารถเยียวยาผู้มี่ส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในระยะเวลา มากกว่า 3 เดือน แต่น้อยกว่า 1 ปี |
1 (ต่ำมาก) |
เกิดขึ้น 1 ครั้งต่อปี | ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัย และความปลอดภัยของพนักงาน หรือผู้มี่สวนได้เสีย (การปฐมพยาบาลเองเบื้องต้น) | ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง | สามารถควบคุมหรือบรรเทาผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน |
ขอบเขตการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
ธุรกิจ OIL และ Non-oil | |||||
---|---|---|---|---|---|
ห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ | จัดหา | ขนส่ง | จัดเก็บ | การตลาด | หน่วยงานสนับสนุน |
กิจกรรมทางธุรกิจ | ● น้ำมัน
● วัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับธุรกิจค้าปลีก |
● น้ำมัน ● วัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับธุรกิจค้าปลีก |
● น้ำมัน |
● สถานีบริการน้ำมัน
● ร้านสะดวกซื้อ ● ร้านกาแฟและเครื่องดื่ม ● ศูนย์บริการและซ่อมบำรุง |
● ฝ่ายทรัพยากรบุคคล |
บริษัท | ● บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด มหาชน ● บริษัท ปิโตรเลียมไทยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ● บริษัท พีทีจี โลจิสติก จำกัด ● บริษัท บีพีทีจี จำกัด ● บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ● บริษัท จี เอฟ เอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์ ) จำกัด ● บริษัท สยาม ออโต้แบคส์ จำกัด ● บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด ● บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด |
ผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนกลุ่มบริษัท พีทีจี และบริษัทร่วมค้า
ร้อยละของกิจกรรมทางธุรกิจที่ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน

ผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของคู่ค้า

ดาวน์โหลดการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
มาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบสำหรับประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน


