โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน

พีทีจี ได้กำหนดกรอบการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมระดับองค์กร ภายใต้แนวคิด “พีที ทำจริง ไม่ทิ้งกัน” ซึ่งประกอบด้วย 3 เป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การส่งเสริมสังคมผู้สูงอายุ และการสร้างวิถีชีวิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยมีรายละเอียดดังนี้


ผลการดำเนินงานตามกรอบการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม

           บริษัทได้ดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน โดยมีรายละเอียดการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้

โครงการสำคัญ (Highlight Project)

1. โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อพัฒนาชุมชนและภาพลักษณ์องค์กรในระยะยาว


2. โครงการลงทุนทางสังคมเพื่อผลประโยชน์เชิงธุรกิจ

                  โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้าและพืชเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

                   ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ริเริ่มโครงการฟื้นฟูพื้นที่เขาหัวโล้นให้กลับมาเป็น "ป่ากาแฟ" ที่สมบูรณ์ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง, กรมป่าไม้, และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมุ่งส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้าและพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่เป้าหมาย 30,000 ไร่ พร้อมทั้งจัดอบรมเกษตรกรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงจากการทำเกษตรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผลผลิตกาแฟจากโครงการยังได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดผ่าน "กาแฟพันธุ์ไทย" ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับเกษตรกรในระยะยาว


ผลตอบแทนจากโครงการส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้าบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน

1. ผลตอบแทนทางสังคม

  • ผลจากกระบวนการ (Output) โครงการนี้ได้ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 100 ครัวเรือน ในตำบลปางหินฝนให้มีโอกาสเข้าร่วมปลูกกาแฟ โดยมีการสนับสนุนด้านความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการปลูกและดูแลกาแฟอย่างยั่งยืน รวมทั้งทรัพยากรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับครอบครัวและชุมชน ทำให้พวกเขามีโอกาสอยู่ดีมีสุขตามแนวทางที่โครงการตั้งเป้าไว้ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร แต่ยังเป็นการฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ช่วยดูดซับคาร์บอน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


2. ผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับ

          จากโครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้าบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน การมีแหล่งวัตถุดิบเมล็ดกาแฟที่มั่นคง และมีคุณภาพสูง ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนในการจัดหาวัตถุดิบ แต่ลดระดับความเสี่ยงจากการดำเนินทางธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์กาแฟพันธ์ุไทย โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับผลผลิตที่เป็นเมล็ดกาแฟสาร ประมาณ 20 ตัน ซึ่งสามารถผลิตเป็นกาแฟเมล็ดคั่วได้ 15 ตัน จากพื้นที่ทั้งหมด 200 ไร่ในปี 2569 นอกจากนี้ปัจจุบันยังรับซื้อเมล็ดกาแฟสารจากเกษตรในพื้นที่ข้างเคียงอีก 50 ตัน ซึ่งเป็นผลผลิตที่สามารถนำไปใช้ในร้านกาแฟพันธุ์ไทย สร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมความมั่นคงในห่วงโซ่การผลิตกาแฟ ทำให้บริษัทสามารถต่อยอดในการพัฒนาและขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน



10076

10074

Loading...