เงื่อนไข และความยินยอมแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า

เงื่อนไข และความยินยอมแนวทางการปฏิบัติอย่างยั่งยืนของคู่ค้า

10218

บทนำ

กลุ่มบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (“กลุ่มบริษัท”) มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความโปร่งใส สุจริต เป็นไปตามกฎหมายรวมถึงให้ความสำคัญต่อหลักการ กำกับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเหตุนี้กลุ่มบริษัทจึงได้กำหนดจรรยาบรรณธุรกิจสาหรับบริษัทคู่ค้า(Supplier Code of Conduct) เพื่อให้คู่ค้าใช้เป็น แนวทางการปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมาย และจรรยาบรรณของบริษัท ตลอดจนมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยผลักดันให้คู่ค้าของกลุ่มบริษัทดำเนิน ธุรกิจอย่างมีจริยธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเกิดความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทมุ่งหวังให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจตามหลักการที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ รวมถึงสนับสนุนให้คู่ค้ามีนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างการเติบโตในระยะยาวไปด้วยกัน

นิยาม คู่ค้า หมายถึง ผู้ขายสินค้า ผู้รับจ้าง และ/หรือผู้ให้บริการ ทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาแก่กลุ่มบริษัท รวมถึงผู้รับจ้างช่วงของผู้ขายสินค้า ผู้รับจ้าง และ/หรือผู้ให้ บริการดังกล่าว

จรรยาบรรณธุรกิจสำหรับบริษัทคู่ค้า

1. จรรยาบรรณทางธุรกิจ (Business Ethics)
     1.1 การกำกับดูแลกิจการ
           คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องดําเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้อง ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียภายใต้หลักการ  กำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ
   1.2 การประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรม
          คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นธรรม มีจรรยาบรรณ และตั้งมั่นที่จะแข่งขันทางการค้าตามหลักจริยธรรมในการประกอบการค้า กฎหมาย และหลักการแข่งขันทางการค้าอย่างเสมอภาคกัน รวมถึงปฏิเสธพฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่ขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
   1.3 ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
         คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่กระทำการใดๆ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือ เอื้อประโยชน์แก่บุคคลใกล้ชิด จากตำแหน่ง หน้าที่และโอกาสต่างๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือมีส่วนได้เสียระหว่างคู่ค้ากับบุคลากรของกลุ่มบริษัท
   1.4 การรักษาข้อมูลอันเป็นความลับ
         คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่เผยแพร่ หรือไม่นำข้อมูลที่เป็นความลับ และ/หรือข้อมูลภายในของกลุ่มบริษัท ไปแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเอง หรือเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม และไม่นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม
  1.5 การใช้ และการดูแลทรัพย์สินทางปัญญา
          คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องให้ความเคารพ และไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ซึ่งรวมถึง เครื่องหมายทางการค้า สิทธิบัตร และไม่ปลอมแปลงหรือใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
   1.6 การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
          คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่กระทำ หรือสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบทั้งในทางตรงและทางอ้อม รวมถึงจัดให้มีนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ตลอดจนควรเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์และขอรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC)

2. ด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน (Labor Practice and Human Right)
    2.1 การไม่เลือกปฏิบัติ
           คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องเคารพในศักดิ์ศรีของลูกจ้าง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม โดยไม่แบ่งแยกจากความแตกต่างในกาย จิตใจ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา เพศ ภาษา อายุ สีผิว การศึกษา สถานะทางสังคม หรือในเรื่องอื่นใด
   2.2 การไม่บังคับใช้แรงงาน
          คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่ใช้แรงงานบังคับ แรงงานที่มาจากการค้ามนุษย์ หรือแรงงานเด็กอันมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการลงโทษ ที่เป็นการทารุณร่างกาย หรือจิตใจพนักงาน ไม่ว่าด้วยวิธีการขู่เข็ญ การกักขัง หน่วงเหนี่ยว การคุกคาม การข่มขู่ การล่วงละเมิด หรือการใช้ความรุนแรงไม่ว่าในรูปแบบใด                                                                                                                                                                                                                                              2.3 การคุ้มครองสิทธิของแรงงาน
         คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องไม่จ้างแรงงานที่ผิดกฎหมาย ในกรณีที่มีการแจ้งแรงงานเด็กที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 18 ปี ต้องจัดให้แรงงานได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด หากเป็นแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการว่าจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างครบถ้วน
  2.4 ค่าจ้าง สิทธิประโยชน์ และระยะเวลาการทำงาน
         คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องจ่ายค่าตอบแทน ให้เหมาะสมตามความสามารถ และศักยภาพของพนักงาน รวมถึงให้สิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างพึงได้รับตามกฏหมาย ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และตรงตามกำหนดเวลา การทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจของลูกจ้าง รวมทั้งจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุด วันลาไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด
   2.5 การเลิกจ้าง
           ในกรณีคู่ค้าของกลุ่มบริษัท มีการเลิกจ้างต้องมีกระบวนการเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน

3. ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (Safety and Occupational Health)
    3.1 ความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
           คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และถูกหลักอนามัยให้กับพนักงาน รวมถึงมีการควบคุมและป้องกันให้เป็นไปตามกฏหมาย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เหตุฉุกเฉิน การเจ็บป่วย และการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน
    3.2 อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
           คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายที่มีในสถานที่ทำงานแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอ มีการประเมินความเสี่ยง พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ได้มาตรฐานและเหมาะสม
    3.3. การเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน
            คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องมีการกำหนดแผนเตรียมความพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย การรายงานเหตุฉุกเฉิน การฝึกอบรมและฝึกซ้อมให้กับพนักงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการสื่อสารให้พนักงานมีความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

4. สิ่งแวดล้อม (Environment)
     4.1 ปฎิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
            คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องปฏิบัติตาม กฎระเบียบข้อบังคับ ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามข้อตกลงระดับสากลในเรื่องต่างๆ เพื่อช่วยป้องกัน หรือลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
     4.2 ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
            คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องให้ความสำคัญต่อการประหยัดพลังงานและใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและ มีประสิทธิภาพ เช่น การลดการใช้น้ำ ไฟฟ้า น้ำมัน เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจในระยะยาว

5. ความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility)
     คู่ค้าของกลุ่มบริษัท ต้องดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และสังคม ยึดมั่นปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน พร้อมทั้ง มุ่งมั่นที่จะดำเนินการยกระดับคุณภาพของชุมชนและสังคม รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

Loading...